10 เครื่องดูดควันยี่ห้อไหนดี เสียงเงียบ กำลังดูดอากาศสูง ประจำปี 2024
เครื่องดูดควัน คือ เครื่องที่ทำหน้าที่ดูดควัน เขม่าควัน รวมทั้งกลิ่นต่าง ๆ ในการทำอาหาร ณ ขณะนั้นด้วย ซึ่งเป็นไอเทมที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับทุกห้องครัว อย่าง ครัวไทย ครัวมินิมอล ครัวโมเดิร์น ครัวบ้านนอก และอื่น ๆ
ซึ่งเป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้วว่ากลิ่นอาหาร ที่เกิดจากการทอดจากหม้อทอดไร้น้ำมัน เตาปิ้งย่างไฟฟ้า และอุปกรณ์ทำอาหารอื่น ๆ ล้วนทำให้เกิดกลิ่นทั้งสิน
และปัญหาสำหรับทุกครัวเรือน แม้แต่ร้านอาหารยังใช้งานเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ ถือว่าเป็นไอเทมที่ใช้งานได้ตอบโจทย์ที่สุดในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เครื่องดูดควันนั้น มีมากมายหลายยี่ห้อ เช่น lucky flame, Zzuom, FRANKE และอื่น ๆ ซึ่งยี่ห้อเหล่านี้มีข้อดีที่แตกต่างกัน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ
ซึ่งท็อปวิวจะมาแนะนำ 10 อันดับ เครื่องดูดควันยี่ห้อไหนดี ทำงานเสียงเงียบ กำลังดูดสูง มาเป็นทางเลือก เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมีวิธีเลือกซื้อมาแนะนำเป็นเคล็ดลับการเลือกซื้อ ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ท่านสนใจด้วย สุดท้ายนี้ยังมีข้อระมัดระวังที่ท็อปวิวอยากจะเตือนให้ท่านระวัง เพื่อความปลอดภัยของท่านเองค่ะ
แนะนำ 10 เครื่องดูดควันยี่ห้อไหนดี เสียงเงียบ กำลังดูดอากาศสูง ประจำปี 2024
มาเริ่มที่อันดับแรก ที่ท็อปวิวได้คัดสรร 10 อันดับของดีมีคุณภาพ รวมไปถึงรีวิวผู้ใช้งานมากมาย มาเป็นทางเลือกซื้อให้ท่านได้ง่ายขึ้นค่ะ
1. เครื่องดูดควัน Kashiwa รุ่น PSD-203D
ขนาด | 900*385*546 Mm. |
ประเภท | ติดตั้งกับผนัง |
ระดับเสียง | 35-48 dB |
กำลังดูด | แรงดันลม 330 Pa |
ประกัน | 1 ปี |
เสียงเบา ดีไซน์สะอาด ดูดควันรวดเร็ว
ตอบโจทย์ครัวไทยด้วย ยี่ห้อ Kashiwa เป็นแบบติดผนัง ที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยกำลังดูดอากาศที่แรงอย่าง 330 Pa สามารถดูดควันและขจัดกลิ่นได้อย่ามีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
เป็นเครื่องหน้ากว้าง 90 ซม. ที่ตอบโจทย์กับครัวไทยขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ ทั้งยังมีเสียงการทำงานที่เบาเพียง 35-48 dB นับว่าเป็นตัวที่เสียงเบามาก เป็นข้อดีในเรื่องไม่ไปรบกวนคนทำอาหารนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ยังมีการใช้งานที่ง่ายสะดวก เนื่องจากมีปุ่มแสง LED สามารถกดควบคุมและมองเห็นได้ชัดเชนทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย
2. FRANKE ฮูดดูดควัน
ขนาด | กว้าง 598 ลึก 280 สูง 175 |
ประเภท | สลิมไลน์ |
ระดับเสียง | ระดับเสียง 65 db(A) |
กำลังดูด | กำลังดูด 600 ลบ.ม./ชม |
ประกัน | 2 ปี |
แบบไม่เจาะผนัง มั่นใจการันตี 2 ปี มีไฟ
ดีไซน์สีดำ เรียบหรู ดูมีเสน่ห์ อีกทั้งยังทำความสะอาดง่าย หากใครที่มีพื้นที่จำกัดในห้องครัว ท็อปวิวแนะนำอันดับนี้ค่ะ เนื่องจากเป็นปะเภท สลิมไลน์ ที่ใช้พื้นที่ไม่เยอะ เหมาะมากสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด
เนื่องจากเป็นยี่ห้อดังอย่าง FRANKE นับว่ามั่นใจได้สูง บวกกับมีการรับประกันสินค้าอีก 2 ปี สามารถใช้งานได้ยาว ๆ ไม่ข้อกังวล ด้วยฮูดดูดควันที่มาพร้อมแผ่นกรองอากาศสำหรับติดตั้งแบบหมุนเวียนภายในอาคาร จึงเป็นข้อดีที่ไม่ต้องเจาะผนังได้
สุดท้ายนี้ยังมีกำลังดูดที่แรงเหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก ทั้งยังสามารถปรับระดับของกำลังได้อีกด้วย
3. เครื่องดูดควัน Lucky Flame
ขนาด | 900 x 480 x 1045 มิลลิเมตร |
ประเภท | แบบกระโจน |
ระดับเสียง | ไม่ระบุ |
กำลังดูด | 1200 ลบ.ม./ชม |
ประกัน | 3 ปี |
กำลังดูดสูง คุณภาพเยี่ยม และประหยัดไฟ
หากใครที่ลังเลสงสัยว่าจะซื้อ เครื่องดูดควัน lucky flame รุ่นไหนดี ตอบโจทย์สำหรับร้านอาหารหรือว่าบ้านหลังใหญ่ เนื่องจากเครื่องมีขนาดกว้าง 90 ซม. และมีกำลังดูดที่สูง ทำให้สามารถดูดควันรอบ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
วัสดุที่สร้างมา เป็นตัวที่ทนทานแข็งแรง เพราะทำมาจากสเตนเลส รวมไปถึงการทำงานที่ควบคุมผ่านระบบสัมผัส เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบันและควบคุมได้ง่าย
นอกจากนี้ยังประหยัดไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายเรื่องไฟฟ้าในระยะยาวได้อีกด้วย นับว่าเป็นยี่ห้อที่คุณภาพคงเส้นคงวาคุณภาพดีไม่เปลี่ยนไปเลยค่ะ
4. เครื่องดูดควัน CAMEL
ขนาด | กว้าง 90 cm |
ประเภท | สลิมไลน์ |
ระดับเสียง | 55 dB |
กำลังดูด | 28 ลบ.ม/นาที |
ประกัน | 3 เดือน |
ดีไซน์โดดเด่น เข้ากับทุกการแต่งห้องครัว ทำความสะอาดง่าย ดูดควันรวดเร็ว
ฮูดดูควันแบบสลิมไลน์ ดีไซน์ทันสมัย เครื่องนี้มีข้อโดดเด่นอย่างสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นอันตราย ทั้งยังตอบโจทย์สำหรับคนที่ครัวขนาดเล็ก จึงเหมาะมากที่ใช้เครื่องตัวนี้
ด้วยกำลังดูด 28 ลบ.ม/นาที สามารถดูดควันได้อย่างรวดเร็ว โดยอากาศที่ดูดจะเข้า 4 ทิศทาง ทำให้ควันและกลิ่นลดไปได้อย่างดีเยี่ยม ภายใต้ขนาดห้องที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีเสียงของเครื่องที่เบา ไม่รบกวนเราตอนทำอาหาร ทำให้เราทำอาหารได้สนุกมมากขึ้น
5. FRANKE รุ่น FD6005A 604 XS
ขนาด | ขนาด 60 ซม. |
ประเภท | แบบมาตรฐาน |
ระดับเสียง | 52 db(A) |
กำลังดูด | 500 ลบ.ม./ชม. |
ประกัน | ไม่ระบุ |
ราคาประหยัด เข้ากับทุกสไตล์ห้อง เสียงเบาสบายหู
เดินทางกันมาถึงครึ่งทางแล้ว ฮูดดูดควันตัวนี้ตอบโจทย์เรื่องราคาประหยัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานในห้องครัวไทยขนาดเล็ก
ซึ่งมีดีไซน์โดดเด่น สีขาวทันสมัยสามารถเข้ากับทุกสไตล์ของห้องครัว
ด้วยกำลังดูด 500 ลบ.ม/ชม. สามารถดูดควันและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างรวดเร็ว อีกข้อดีของเครื่องที่ช่วยให้การทำอาการง่ายและสนุกยิ่งขึ้นคือ ไฟส่องสว่าง สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
สุดท้ายนี้ยังมีเสียงเงียบสบายหู ด้วยระดับความดังเพียง 52 dB ด้วยราคาที่ประหยัด บวกกับโปรโมชั่นของร้าน รับว่าจะช่วยให้คุณได้ของดีในราคาประหยัดมากขึ้นค่ะ
6. TECNOSTAR รุ่น TNS HD 502 B 900
ขนาด | ขนาด 90 ซม. |
ประเภท | ติดตั้งกับผนัง |
ระดับเสียง | ไม่ระบุ |
กำลังดูด | 1000 ลูกบาศก์เมตร |
ประกัน | 2 ปี |
ของดีคุณภาพ ราคาประหยัด แข็งแรงทนทานและปลอดถัย
จากดีไซน์ส่วนโค้งของกระจกนิรภัยบวกกับสเตนเลส ซึ่งเป็นดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของยี่ห้อ TECNOSTAR ซึ่งช่วยในเรื่องของความปลอดภัยที่ดีกว่า และอุ่นใจกว่านั่นเอง
ด้วยกำลังดูดแรงสูงอย่าง 1000 ลบ.ม/ชม เมื่อเทียบกับราคาถือว่าคุ้มค่าและทำงานได้อย่างรวดเร็ว ดูดควันทันใจ ซึ่งใช้งานร่วมกับฟิลเตอร์วัสดุอลูมิเนียม ยิ่งช่วยกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
7. เครื่องดูดควัน Lucky Flame รุ่น RG-901S
ขนาด | 90 ซม. |
ประเภท | แบบกระโจม |
ระดับเสียง | ไม่ระบุ |
กำลังดูด | 1,600 m3/hr |
ประกัน | 5 ปี |
กำลังดูดแรงสูง แข็งแรงปลอดภัย
กลับมาที่ เครื่องดูดควัน Lucky Flame รุ่น RG-901S โดดเด่นที่สุดในเรื่องของกำลังดูด สามารถดูดควันให้หมดจดอย่างรวดเร็ว ด้วยกำลังดูด 1,600 m3/hr รวมกับท่อระบายอากาศ 152.4 mm. ยิ่งทำงานได้อย่างเต็มปประสิทธิภาพ
ด้วยการควบคุม เป็นแบบกุดปุ่มใช้งานได้ง่ายทุกการสัมผัส นอกจากนี้เครื่องฮูดดูดควันตัวนี้ยังเน้นเครื่องของความปลอดภัย ซึ่งให้วัสดุที่แข็งแรงอย่าง สเตนเลส STL.430BA กับกระจกนิรภัย
สุดท้ายนี้ Lucky Flame ให้ความมั่นใจและรับประกันสินค้าให้คุณได้ยาว ๆ ถึง 5 ปี ช่วยให้มั่นใจและเราอุ่นใจต่อการใช้งานมากขึ้น
8. Kashiwa hood รุ่น KW-101
ขนาด | ขนาด 71 ซม |
ประเภท | แบบมาตรฐาน |
ระดับเสียง | 35-48 dB |
กำลังดูด | 280 Pa |
ประกัน | ไม่มี |
เสียงเงียบ ประหยัดไฟ ดูดวันเร็ว
หากใครต้องการฮูดดูดควันที่เสียงเงียบ ไม่รบกวนการทำอาหารในห้องครัวไทย หรือครัวอื่น ๆ ไม่ควรพลาดยี่ห้อ Kashiwa hood รุ่น KW-101 ด้วยดีไซน์สีดำหรูหนา พร้อมปุ่มกดควบคุมง่าย
บวกกับกำลังดูดอากาศ 280 Pa สามารถดูดอากาศได้รวดเร็ว ซึ่งลำเลียงควันผ่านท่อฟรอยล์เส้นผ่านศูนย์กลาง 16 ซม. ยาว 150 ซม. ซึ่งไม่มีควรมาารบกวรบริเวณรอบ ๆ
สุดทท้ายนี้ยังประหยัดไฟ พร้อมทั้งยังมีไฟให้สามารถมองเห็นวัตถุดิบได้ง่าย ช่วยให้ทำอาหารสนุกยิ่งขึ้น
9. HAFELE เครื่องดูดควันแบบสลิมไลน์ รุ่น HH-TP60-12
ขนาด | 60 |
ประเภท | สลิมไลน์ |
ระดับเสียง | 61 dB |
กำลังดูด | 750 ลบ.ม./ชม. |
ประกัน | 1 ปี |
ปลอดภัย วัสดุแข็งแรง ประหยัดไฟ กำลังดูดเหมาะสม
ดีไซน์สวย เท่มีเสน่ห์ เข้ากับทุกสไตล์ของห้องครัวต้อง HAFELE รุ่น HH-TP60-12 ค่ะ เป็นเครื่องที่เน้นความแข็งแรงทนทาน ด้วยวัสดุอย่างสเตนแลสสตีล ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น
อีกความสามารถที่โดดเด่น คือ เครื่องนี้สามารถปรับระดับแรงดูดได้ถึง 2 ระดับ ช่วยลดการทำงานของเครื่องโดยไม่จำเป็น มีประโยชน์ตรงที่สามารถประหยัดไฟได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีระดับเสียง 61 dB ไม่ไปรบกวนการทำอาหารของคุณ ทำให้คุณสนุกกับการทำอาหารได้อย่างเต็มที่
10. ZZuom Hood เครื่องดูดควัน
ขนาด | 900x380x540mm |
ประเภท | ติดผนัง |
ระดับเสียง | เบา |
กำลังดูด | 39m³/min |
ประกัน | 3 เดือน |
ทนทานแข็งแรง ปลอดภัย แรงดูดแสง ราคาประหยัด
โดดเด่นเรื่องดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์การทำงานของคนสมัยใหม่ ช่วยให้ควบคุมได้ง่าย เพียงการสัมผัสท็อปวิวขอแนะนำยี่ห้อ ZZuom hood ดูดควันอัจฉริยะ
มาพร้อมกับกำลังดูดแรงสูงประทับใจอย่าง 39 ลบ.ม/นาที สามารถดูดเขม่าขวันได้อย่างรวดเร็ว หายห่วงเรื่องกลิ่นและควัน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันเสริมที่สามารถปรับระดับได้ถึง 3 ระดับ ช่วยให้ลดการทำงานของเครื่องได้อย่างดี
นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูงจากวัสดุแข็งแรง และเป็นเครื่องที่ทำความสะอาดได้ง่าย สุดท้ายนี้ยังมีราคาที่จับต้องง่าย เป็นเครื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ
วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดควัน ให้เหมากับครัวของคุณ
เผื่อสำหรับใครที่ต้องการซื้อตัวอื่น นอกเหนือจาก 10 อันที่ท็อปวิวแนะนำไป สามารถมาอ่านดูหลักวิธีเลือกซื้อฉบับท็อปวิว และนำไปซื้อได้ง่าย ๆ และตอบโจทย์ค่ะ
ประเภทเครื่องดูดควันที่ควรรู้จัก
- ดดูดเขม่าควันแบบกระโจม (Island Hood) ประเภทนี้จะเหมาะสำหรับร้านอาหารที่ทำอาหารอยู่เป็นประจำ หรือบ้านหลังใหญ่ ๆ ซึ่งมีข้อดีตรงที่กำลังดูดสูง คุณภาพดีเยี่ยม และราคาก็จะสูงตามมาด้วย
- ดูดควันแบบติดผนัง (Chimney Hood) เป็นตัวที่เข้าถึงได้ง่าย ราคากันเองแบบคนทั่วไป ด้วยกำลังดูดควันสูงกับราคาถูก จึงนิยมใช้สำหรับคนทั่วไปนั่นเอง
- ดูดควันมาตรฐาน (Slimline Hood) หลายคนเรียกอีกชื่อว่า “แบบไม่เจาะผนัง” คนที่มีห้องครัวขนาดเล็ก ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยู่คอนโด กำลังดูดอากาศควันไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับสองตัวที่แล้ว ข้อดีคือไม่ต้องเจาะผนังหรือบิ้วอิน นอกจากนี้ยังสามารถกรองควันและกลิ่นผ่านฟิลเตอร์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องต่อท่อนั่นเอง
เครื่องดูดควันเสียงเบาที่ไม่เกินกำหนด
เสียง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลรบกวนผู้ใช้งานอย่างมาก หากมีเสียงดังเกินกำหนด มันจะส่งผลกระทบต่อประสาทหูของผู้ใช้งานหรือคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ
ฉะนั้น เครื่องดูดควันควรมีเสียงที่ไม่เกิน ระดับเสียงอย่าง 85 เดซิเบล แต่ถ้าจะให้ดี ท็อปวิวอยากแนะนำให้เลือกเครื่องที่มีระดับเสียงไม่เกิน 60 dB จะดีที่สุดค่ะ
กำลังดูดคือหัวใจสำคัญ
กำลังดูด คือ หัวใจสำคัญต่อการดูดควันเลยก็ว่าได้ ยิ่งมีกำลังดูดมาก ประสิทธิภาพจะดีขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ราคานั้นจะสูงขึ้นตามกำลังดูด เหมือนเงาตามตัว
ดังนั้น ท็อปวิวมีเคล็ดลับในการเลือกกำลังดูดที่เหมาะสมกับห้องครัวของท่าน โดยการใช้สูตรหาปริมาตรของห้องและเอามาคูณ 10 เช่น กว้าง*ยาว*สูง*10 โดจะมีหน่วยเป็น ลบ.ม/ชมหรือนาที นั่นเป็นกำลังดูดที่เหมาะสำหรับการใช้งานได้
สุดท้ายนี้ เพื่อน ๆ ควรเลือกขนาดของเครื่องดูดควันให้สอดคล้องกับเตาแก๊ส เพื่อให้การดูดครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองค่ะ
5 ข้อที่ควรระวัดระวังกับครัวที่ใช้เครื่องดูดควัน
แม้ว่าเครื่องนี้จะมีประสิทธิภาพมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวัง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุต่อการใช้ ซึ่งมีดังนี้ค่ะ
- สิ่งแรงที่ควรนำ เมื่อได้เครื่องนี้มาอยู่กับมือ คือการอ่านคู่มือการใช้งาน ในนั้นจะมีข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานควรทำตามอย่างเคร่งคัด และการใช้ที่ตรงวัตถุระสงค์
- เรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญ เรื่องที่ต้องระวังมาก ๆ คือ เด็กเล็ก ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กเข้ามาเปิดเครื่องเหล่านี้โดยลำพังเด็ดขาด
- หมั่นทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่างตัวเครื่อง หรือไส้กรอง อยู่เป็นประจำและควรตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่สม่ำเสมอ หากเกิดการชำรุด ควรหาช่างโดยเร็ว
- ไม่ควรก่อไฟ จุดไม่ขัดไฟ หรือ เผาไหม้ใดๆ แล้วนำไปอังเครื่องดูดควัน
- ระวังเรื่องน้ำด้วย เนื่องจากเครื่องนี้เป็นตัวที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ควรเช็ดใช้แห้งสนิทแล้วค่อยใช้งาน
สรุป
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับ 10 เครื่องดูดควัน ยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางใหนการเลือกซื้อ หวังว่าจะมีสักอันดับที่ตรงใจคุณได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเครื่องเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพที่ดี แต่อย่าลืมทำความสะอาดห้องครัว ให้สะอาดตาอยู่เสมอ เพื่อการหยิบจับได้ง่าย และความน่าใช้งานของห้องครัวไทย หรือครัวอื่น ๆ
สุดท้ายนี้การทำอาหารควรมีถุงมือ หรืออุปกรณ์ป้องกัน เพื่อให้คุณปลอดภัยในการทำอาหารและช่วยทำอาหารได้สนุกยิ่งขึ้นอีกด้วยนั่นเองค่ะ
บทความนี้จัดทำอย่างอิสระ เมื่อคุณซื้อสินค้าผ่านลิงค์ของท็อปวิว เราอาจจะได้คอมมิชชั่น