10 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ขจัดฝุ่นละลอง กลิ่นอับ และเชื้อแบคทีเรียบนรถ ประจำปี 2024
เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตเพราะว่าเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยลดปัญหา ละอองฝุ่นจากถนน ควันรถและมลพิษอื่น ๆ ขณะเดินทาง ยิ่งสะสมไปนาน ๆ จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและด้านอื่น ๆ ได้
ดังนั้น หากใครประสบปัญหาและกำลังหาทางแก้ปัญหาอยู่ บทความนี้มี 10 อันดับเครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี มาแนะนำจากรีวิวผู้ใช้งานจริงเป็นทางเลือกให้คุณครับ
รวม 10 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ขจัดฝุ่นละลอง กลิ่นไม่พึงประสงค์ และเชื้อแบคทีเรียบนรถ ประจำปี 2024
1. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ CONOCO C7 PRO
คะแนนจากผู้ใช้ | 8.5 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ขนาดเล็ก | มีผลกระทบต่อแบต |
กรองฝุ่น PM 2.5 | – |
เสียงเงียบ | – |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ CONOCO C7 PRO ฟังก์ชันครอบครัน สามารถกรองฝุ่นได้ดีถึง 99.99% อีกทั้งยังสามารถกรองไวรัสและเชื้อแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว และกรองกลิ่นอับ ควัน หรือสารก่อเคมีต่าง ๆ ได้อีกด้วย
เหมาะสำหรับรถ 4-11 ที่นั่ง มีเซนเซอร์ตรวจจับมลพิษ ซึ่งทำงานควบคู่แบบอัตโนมัติเมื่อสาร์ทรถ นอกจากนี้ยังมีจอ LED บ่งบอกสถานะสีมลพิษต่าง ๆ ที่เซนเซอร์ตรวจจับได้นั่นเอง
คุณสมบัติสินค้า | -มีตัวกรอง 4 ชั้น -กรองฝุ่น PM 2.5 ขนสัตว์ ควัน กลิ่นไม่พึงประสงค์ ขจัดเชื้อโรค สารเคมี และสารก่อภูมิแพ้ -มีเซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพอากาศ -มีฟังก์ชันแจ้งเตือนเปลี่ยนแผ่นกรอง |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
2. Gmax เครื่องกรองอากาศในรถยนต์ รุ่น AP-001
คะแนนจากผู้ใช้ | 8.5 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ราคาถูก | กรองกลิ่นแรง ๆ ไม่ได้ |
ดูแลง่าย | เครื่องเทอะทะ |
หากใครกำลังมองหาสินค้าราคาถูก ท็อปวิวแนะนำ Gmax เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP-001 เป็นเครื่องประเภทเสียบสาย USB แล้วกรองอากาศ สามารถกรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอนได้มากถึง 99.97%
มีฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติ อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งาน มีนวัตกรรมช่วยเครื่องฟอกอากาศ Gmax รุ่น AP-001 เสียงเบาช่วยผู้โดยสารนั่งรถได้อย่างสงบ
คุณสมบัติสินค้า | -มีไฟบอกสถานะ -กรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมคอนได้ 99.97% -เปิด-ปิดอัตโนมัติ |
ประกัน | 1 ปี |
3. เครื่องฟอกอากาศในรถ pm 2.5 COMMY รุ่น AP003
คะแนนจากผู้ใช้ | 8/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ไอออนลบขจัดมลพิษ | เหมาะกับรถขนาดเล็ก |
ขนาดกระทัดรัด | มีผลกระทบต่อแบต |
ประหยัดพลังงาน | – |
เครื่องฟอกอากาศในรถ pm 2.5 ราคาประหยัดตอบโจทย์สำหรับรถเก๋ง รถครอบครัว หรือรถกระบะ ด้วยพื้นที่จำกัดสามารถฟอกอากาศได้ดีเยี่ยม กรองฝุ่น PM 2.5 ขจัดมลพิษด้วยไอออนลบ
เสริมด้วยน้ำมันหอมระเหยทำให้ผู้โดยสายสดชื่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ด้วยขนาดเครื่องที่เล็กกระทัดรัดไม่กินพื้นที่รถ ทั้งยังมีจอ LED บอกสถานะต่างๆ ใช้งานก็ง่าย โดยรวมแล้วท็อปวิวมองว่ารุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ผมประทับใจครับ
คุณสมบัติสินค้า | -ฟิวเตอร์ HEPA กรองฝุ่น PM 2.5 -ไอออนลบขจัดมลพิษในอากาศ -น้ำมันหอมละเหยช่วยอากาศสดชื่น -มีแรงลม 2 ระดับ |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
4. Distar เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM 2.5
คะแนนจากผู้ใช้ | 8.5/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ขนาดกระทัดรัด | พื้นที่การใช้งาน |
ราคาประหยัด | มีผลกระทบต่อแบต |
ดีไซน์เท่ทันสมัย | – |
มีจุดเด่นตรงที่ดีไซน์ เท่ หรูหรา ตอบโจทย์สำหรับผู้ชายและคนที่ชอบสไตล์นี้ ด้วยขนาดกระทัดรัดน้ำหนักเบา จึงเคลื่อนย้ายได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่
สามารถฟอกอากาศและกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ดี โดยหลักการทำงานจะเป็นการปล่อยประจุลบและพ่นละออง นอกจากจะจัดการฝุ่นได้แล้วยังจัดการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างราบคาบ
คุณสมบัติสินค้า | -กรองฝุ่น PM 2.5 กรองกลิ่นอับ กลิ่นบุหรี่ ควันบุหรี่ ขจัดเชื้อแบคทีเรีย -แสดงโหมดการทำงาน ฆ่าเชื้อและกรองฝุ่น ด้วยสีส้มและน้ำเงิน -ขนาดกระทัดรัด |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
5. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ philips GoPure 5311
คะแนนจากผู้ใช้ | 9/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ประหยัดพลังงาน | ราคาสูง |
ติดตั้งง่าย | พื้นที่ทำงานกำจัด |
กรองอากาศได้เร็ว | – |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ philips GoPure 5311 มีคุณสมบัติครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูดกลิ่น ฆ่าเชื้อไวัรัสและแบคทีเรียนได้อย่างรวดเร็ว
นับว่าเป็นคุณสมบัติที่ตอบโจทย์รอบด้าน ทั้งยังยังใช้งานได้ง่าย มีฟังก์ชันสีแสดงสถานะอากาศ รวมไปถึงระบบฟอกอากาศอัตโนมัติช่วยเสริมให้เรามีสมาธิขับรถอีกด้วย แม้ว่าจะมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ก็ตามมาด้วยราคาที่แพง หากใครคิดว่าไหวและคุ้มค่า ท็อปวิวแนะนำ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ philips GoPure 5311 ครับ
คุณสมบัติ | -กรองฝุ่น PM 2.5 กรองกลิ่นและควัน กำจัดมลพิษ -แบคทีเรีย ไวรัส ด้วยตัวกรอง 3 ชั้น -มีไฟบอกสถานะ LED น้ำเงิน(ดี) เหลือง(ปกติ) แดง(แย่) -ระบบฟอกอัตโนมัติ |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
6. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ sharp รุ่น IG-NX2B
คะแนนจากผู้ใช้ | 9/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ฟอกอากาศ ขจัดเชื้อเร็ว | ราคาแรง |
ใช้งานง่ายต่อผ่าน USB |
เดินทางมาที่สินค้าคุณภาพอีกตัวอย่างเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ sharp รุ่น IG-NX2B กันครับ มาดูเทคโนโลยีพลาสม่าที่ฆ่าเชื้อและไวรัสในอากาศ มีโหมดฟอกอากาศเทอร์โบเร็วถึง 3 เท่า
อีกทั้งยังมีดีไซน์กระทัดรัด รูปทรงกระบอกน้ำหนักเบาจึงเคลื่อนย้ายได้สะดวก นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องฟอกอากาศในรถที่ใช้งานง่าย เพียงเสียบ USB-C ก็ใช้งานได้แล้ว แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ด้วยคุณภาพนับว่าสมเหตุสมผลครับ
คุณสมบัติ | -เทคโนโลยีพลาสม่าฆ่าเชื้อราและไวรัสในอากาศ -ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ -กรองฝุ่น PM 2.5 -ประหยัดพลังงาน |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
7.Axon Pure Fresh Purifier
คะแนนจากผู้ใช้ | 7.9/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ราคาประหยัด | พื้นที่จำกัด |
ใช้งานง่าย | เสียงดังเล็กน้อย |
Axon Pure Fresh Purifier เครื่องฟอกอากาศในรถราคาย่อมเยาคุณภาพดี รุ่นนี้เป็นตัวเพื่อนใช้และบอกต่อ ความสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ขจัดเชื้อแบคทีเรีย และยังสลายกลิ่นไม่พึงประสงค์หนัก ๆ ได้
เป็นรุ่นที่ต่อสายชาร์จ type-c แล้วสามารถใช้งานได้นานถึง 8-12 ชั่วโมง เครื่องนี้ใช้งานง่ายเพียงต่อสายก็ใช้งานได้แล้ว อีกทั้งยังไม่ร้อนเพราะตัวเครื่องไม่มีแบตเตอรี่ นับว่าเป็นอีกตัวที่ท็อปวิวแนะนำเลย
คุณสมบัติ | -กรองฝุ่น PM 2.5 เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เกสรดอกไม้ -สร้างโอโซนเพื่อสลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ -ใช้งานต่อเนื่องได้ 8-12 ชั่วโมง |
ประกันสินค้า | 2 ปี |
8. Mannature Car Air Purifier
คะแนนจากผู้ใช้ | 8.4/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ใช้งานง่าย | พื้นที่จำกัด |
จอแสดงผลแบบเรียลไททม์ | การบำรุงรักษา |
เครื่องฟอกอากาศในรถ Mannature Car Air Purifier คุณภาพดีที่ชาว pantip สนใจ ด้วยความสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและฆ่าไวรัส ด้วยแผ่นกรอง 3 ชั้น HEPA
สลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถโดยการสร้างโอโซน(อากาศบริสุทธิ์) สลายกลิ่นบุหรี่ กลิ่นควัน และกลิ่นอับต่าง ๆ ช่วยให้ผู้โดยสารสดชื่นระหว่างนั่งรถ นอกจากนี้มีฟังก์ชันตรวจสอบมลพิษและแสดงผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์
คุณสมบัติ | -กรอง 3 ชั้น ฝุ่น PM 2.5 เชื้อแบคทีเรีย -สร้างโอโซนสลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ -มีหน้าจอ LED บอกสถานะ |
ประกันสินค้า | 6 เดือน |
9. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Yamada รุ่น C1
คะแนนจากผู้ใช้ | 8/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ไฟ LED 7 สีสวยงาม | พื้นที่จำกัด |
ใช้งานง่าย | เปลี่ยนไส้กรองบ่อย |
ราคาประหยัด |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Yamada รุ่น C1 ราคาประหยัดคุณภาพดี สามารถกรองฝุ่น ฆ่าเชื้อแบคทีเสียได้ อีกทั้งยังมีไส้กรองคาร์บอน ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลดกลิ่นอับภายในรถได้ดี
เสริมด้วยฟังก์ชันปล่อยประจุลบ 30 ล้านอนุภาคต่อชั่วโมง ดักจับฝุ่นในอากาศ อีกทั้งยังมีการทำงานเสียงเบาอยู่ในระดับ 18 เดซิเบล ไม่รบกวนผู้โดยสาร สุดท้ายนี้ยังสีไฟ LED 7 สีเพิ่มบรรยากาศน่าอยู่ในผู้โดยสารอีกด้วย
คุณสมบัติ | -แผ่นกรอง HEPA H13 กรองฝุ่น ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย -ไส้กรองคาร์บอน ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ -ไฟ LED ปรับได้ 7 สี -เสียงเงียบ ระดับ 18 เดซิเบล |
ประกันสินค้า | 1 ปี |
10. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ xiaomi Mi Mijia Car
คะแนนจากผู้ใช้ | 7.9/10 |
ข้อดี | ข้อสังเกต |
ราคาประหยัด | เปลี่ยนไส้กรองบ่อย |
กรองฝุ่น กลิ่นอับได้ | พื้นที่ใช้งานจำกัด |
มาที่อันดับสุดท้ายของหัวข้อเครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ท็อปวิวขอแนะนำ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ xiaomi Mi Mijia Car มาในงบประหยัด สามารถฟอกอากาศ กรองฝุ่น ขจัดเชื้อแบคทีเรีย และดับกลิ่นไม่พึงประสงค์
มาพร้อมกับเครื่องขนาดเล็กพกพาสะดวก มีจอ LED ที่แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเสียบ USB ใช้งานมาก เพียงแต่ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยขึ้น และวัสดุไม่ได้ทนเท่ารุ่นอื่น แต่ด้วยงบเท่านี้สมเหตุสมผลครับ
คุณสมบัติ | -แผ่นกรอง HEPA กรองฝุ่น 0.3 ไมครอน และเชื้อแบคทีเรีย -ไส้กรองคาร์บอน สลายกลิ่นอับ -มีหน้าจอ LED -เสียงเงียบ – ใช้งานง่ายผ่านพอร์ต USB |
ประกันสินค้า | ไม่ระบุ |
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ประจำปี 2024
- เครื่องฟอกอากาศ philips รุ่นไหนดี ประจำปี 2024
- เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี ประจำปี 2024
คำถามเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศในรถ
1. เครื่องฟอกอากาศในรถ จําเป็นไหม
สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือนอกบ้าน เครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งทำจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากโรคมันสะสมในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตได้ ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศในรถ นับว่าเป็นสำหรับคนที่เป็นภูมิ และคนที่ได้รับผลกระทบกับฝุ่น PM 2.5 นั่งเอง
2. เครื่องฟอกอากาศในรถคืออะไรและทำงานอย่างไร?
เครื่องฟอกอากาศในรถเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดปัญหา ฝุ่นละออง กลิ่นไม่พึงประสงค์ และเชื้อราในรถ โดยหลักการทำงานจะดูดอากาศภายนอกจากตัวกรอง เช่น HEPA (High Efficiency Particulate Air)
หรือตัวอย่างอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติกรองกลิ่น หรือกำจัดเชื้อราบนรถ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันช่วยกระจายลมและไอละเหยที่ให้อากาศหอมสดชื่นอยู่ภายในรถนั่นเอง
3. เครื่องฟอกอากาศในรถมีผลต่อการใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่รถยนต์หรือไม่
เครื่องฟอกอากาศในรถมีผลกระทบต่อแบตเตอรี่รถยนต์ แต่บทกระทบนั้นมักจะมีขนาดเล็กมาก จากประสบการณ์ที่ท็อปวิวใช้งานมาไม่ส่งผลเสียต่อระบบไฟฟ้าของรถยนต์ครับ
ข้อแนะนำจากการใช้งาน ท็อปวิวแนะนำให้ควรหมั่นสำรวจเครื่องฟอกอากาศและปิดการใช้งานทุกครั้งหากไม่อยู่บนรถ และหมั่นไปตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่รถยนต์เป็นประจำเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่รถยนต์มีประสิทธิภาพอยู่
4. มีเครื่องฟอกอากาศในรถรุ่นไหนที่ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้บ้าง
ตอบ ในปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศที่สามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ นับว่าสะดวกและตอบโจทย์การใช้งานของคุณในยุคสมัยนี้บ้าง และเครื่องฟอกอากาศในรถที่ใช้มือถือควบคุมได้ ท็อปวิวได้ไปรวบรวมมาไว้แล้ว ดังนี้
- Philips GoPure Style GP5611
- Blueair Cabin P2i
- IQAir Atem Car
- Sharp IG-GC2E
- Coway Airmega 150
5. ควรเปลี่ยนไส้กรองเครื่องฟอกอากาศในรถบ่อยแค่ไหน
ในปกติแล้วไส้กรองเครื่องฟอกอากาศในรถนั้นควรเปลี่ยน 6-12 เดือน แล้วแต่การใช้งานและประสิทธิภาพของยี่ห้อนั้น ๆ ด้วย
แต่ถ้าหากพื้นที่ที่เราใช้งานมีฝุ่นหรือมลพิษเยอะมากกว่าปกติ สามารถเปลี่ยนได้ภายใน 3-6 เดือน และข้อแนะนำจากประสบการณ์ที่ท็อปวิวใช้งานมา
ควรซื้อมารอและหากใกล้ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน และจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือนแล้ว เมื่อเครื่องส่งสัญญาณท็อปวิวจึงเอาไส้กรองที่ซื้อมารอมาเปลี่ยนได้ทันทีเลย
อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศในรถให้มีการใช้งานที่ยาวนาน คุณควรหมั่นดูแลและเช็คสภาพไส้กรองอยู่เสมอ เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศในรถใช้งานได้นานนั่นเอง
สรุป
เป็นยังไงบ้างคำสำหรับคนที่อ่านมาหัวเครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดีจนมาถึงบทสรุป ท็อปวิวหวังว่าจะบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อสินค้าที่ตอบโจทย์ในงบที่เหมาะสมครับ
ยังไงการเดินทางเป็นสิ่งที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว การซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถมาใช้งาน ทำให้ชีวิตท็อปวิวสะดวกสบายขึ้นเยอะเลยครับ ดังนั้นการซื้อมาใช้งานเป็นสิ่งที่คุ้มค่านั่นเอง
บทความนี้จัดทำอย่างอิสระ เมื่อคุณซื้อสินค้าผ่านลิงค์ของท็อปวิว เราอาจจะได้คอมมิชชั่น