5 เครื่องฟอกอากาศ philips รุ่นไหนดี รวมลิตส์ยอดนิยมจากผู้ใช้งาน พร้อมรีวิวดี ๆ ปี 2024
เครื่องฟอกอากาศ philips เป็นหนึ่งยี่ห้อของเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพมีความน่าเชื่อถือสูง ที่ช่วยแก้ปัญหาในปัจจุบันที่มีฝุ่นเต็มทั่วอากาศ เป็นผลให้การหายใจติดขัด หรืออาจเกิดโรคภูมิแพ้อื่น ๆ
เครื่องฟอกอากาศนั่นมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศ xiaomi sharp Airdog DAIKIN Dyson TOSHIBA และอื่น ๆ
ในบทความนี้จะเน้นถึง เครื่องฟอกอากาศ Philips ตัวท็อป ๆ ใช้งานง่ายคุณภาพดีการันตีจากผู้ใช้งานจริง รีวิวเน้นมาให้ดู เพื่อให้คุณสามารถนำไปเลือกพิจารณาซื้อได้มากขึ้นนั่งเอง
รวมอันดับ 5 เครื่องฟอกอากาศ philips รุ่นไหนดี รวมลิตส์ยอดนิยมจากผู้ใช้งาน พร้อมรีวิวดี ๆ ปี 2024
1. เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS รุ่น AC0820/20
ขนาดห้อง | 16-49 ตร.ม. |
ฟังก์ชัน | -กรองเล็กกว่า 0.003 ไมครอน -สดงคุณภาพอากาศด้วย 4 ระดับ -โหมด Sleep ความสว่างลง เสียงเบา -โหมดอัตโนมัติ -ขจัดไวรัสได้ถึง 99.9% |
ประกันสินค้า | 2 ปี |
ราคาเข้าถึงง่าย คุณภาพเยี่ยม จัดการ pm 2.5 อยู่หมัด อากาศปลอดเชื้อโรค
เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS ที่ได้รับความนิยม เพราะราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม จึงเป็นเหตุผลส่วนใหญ่ที่หลาย ๆ คนชอบใช้
คุณสมบัติเด่นที่เป็นจุดสนใจคือ ความสามารถที่กรองอนุภาคเล็ก ๆ ได้ถึง 0.003 ไมครอนที่กำจัดฝุ่น pm 2.5 อยู่หมัด พร้อมแสดงอากาศที่เราอยู่ด้วยสัญลักษณ์ง่าย ๆ 4 ระดับ
นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดเชื้อโรค ไวรัสตามอากาศได้ถึง 99.9% ช่วยให้บรรยากาศรอบ ๆ บริสุทธิ์มากขึ้น ทำให้หายใจสะดวก ปลอดไวรัส ช่วยให้บ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้น
สามารถอ่านรีวิวเต็มได้ ๆ ที่ รีวิวเครื่องฟอกอากาศ PHILIPS รุ่น AC0820/20
2. PHILIPS Air Purifier Serie 1000i
ขนาดห้อง | 16-78 ตร.ม. |
ฟังก์ชัน | -กรองอนุภาคเล็ก 0.003 ไมครอน -ขจัดไวรัสและฝุ่นละอองตาม อากาศได้สูงสุดได้สูงถึง 99.9% -มีเซนเซอร์ระดับมืออาชีพ -ทำงานเบา |
ประกันสินค้า | 2 ปี |
ทำงานเสียงเบา ดีไซน์มินิมอล ดักจับฝุ่นแบบมืออาชีพ
PHILIPS Air Purifier Serie 1000i ดีไซน์มินิมอล ขนาดเล็กประหยัดพื้นที่ สามารถเข้ากับทุกสไตล์ของห้อง ด้วยเซนเซอร์คุณภาพทำให้เครื่องฟอกอากาศตัวนี้ทำงานได้อย่างมืออาชีพ
รวมไปถึงการทำงานเสียงเงียบไม่รบกวนการพักผ่อนของคนในบ้าน นอกจากนี้ฟังก์ชันการทำงานที่จับฝุ่น 0.003 ไมครอน รวมไปถึงการขจัดไวรัสตามอากาศได้ 99.9%
3. เครื่องฟอกอากาศฟิลิป AC0850/21
ขนาดห้อง | 16-49 ตร.ม. |
ฟังก์ชัน | ขจัดไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และมลพิษได้ 99% |
ประกันสินค้า | 2 ปี |
ฟอกอากาศบริสุทธิ์ในเวลาไม่เกิน 16 นาที รวดเร็วทันใจ เหมาะสำหรับห้องนอนหรือบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะเครื่องฟอกอากาศฟิลิปตัวนี้สามารถดักจับขนสัตว์ได้อย่างดี
มาพร้อมกับความสามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 ฝุ่น มลพิษ และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ 99.5% รับว่าเป็นตัวที่สร้างบรรยากาศภายในบ้านน่าอยู่
สุดท้ายนี้ด้วยเทคโนโลยี NaNoProtect HEPA ที่กรองด้วย แผ่นกรอง HEPA และผงถ่านกัมมันต์ ทำให้การทำงานประสิทธิภาพคงทนต่อไปได้อย่างยาวนาน
4.เครื่องฟอกอากาศ philips AC0650
ขนาดห้อง | 44 ตร.ม. |
ฟังก์ชัน | กรองอนุภาคเล็กได้ 99.7% กำจัดมลพิษได้ภายใน 17 นาที ควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่นได้ |
ประกันสินค้า | ไม่ระบุ |
เครื่องฟอกอากาศ philips AC0650 ราคาถูกคุณภาพดีที่มาพร้อมกับคุณสมบัติมากกว่ามาตรฐาน ซึ่งสามารถฟอกอากาศและกำจัดมลพิษได้อย่างรวดเร็วภายใน 17 นาที
กรองอนุภาคเร็ว ๆ อย่างฝุ่น PM 2.5 ได้สบาย ๆ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น และดูสถานะต่าง ๆ ผ่านมือถือได้เลย
นี่แหละครับที่เป็นเหตุผลที่ เครื่องฟอกอากาศ philips AC0650 น่าสนใจอีกตัว
5. PHILIPS รุ่น AC1715/21
ขนาดห้อง | 78 ตร.ม. |
ฟังก์ชัน | เชื่อมต่อกับแอป Air+ ขจัดไวรัสและฝุ่นละออง 99.9% เซนเซอร์ระดับมืออาชีพ เงียบเป็นพิเศษและไม่มีแสงรบกวน |
ประกันสินค้า | 2 ปี |
เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS รุ่น AC1715/21 ลำดับสุดท้ายที่ท็อปวิวจะแนะนำ เพราะคุณภาพถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ ด้วยความสามารถกรองฝุ่น 99.9%
มีเซนเซอร์สามารถฟอกอากาศอัตโนมัติได้อย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังทำงานเสียงเงียบไม่รบกวนการพักผ่อน และยังลดแสงเพื่อทำให้นอนหลับได้ง่าย
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเครื่องจะมีคุณภาพดีแค่ไหนก็ แต่ก็ต้องงแลกกับราคาที่แพงขึ้นมาด้วย หากใครเช็คราคาแล้วว่าคุ้มค่าก็จัดเลยครับ
หลักการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศฟิลลิปให้ตรงใจมากที่สุด
ขนาดของห้อง
เครื่องฟอกอากาศฟิลลิป หรือเครื่องฟอกอากาศทุกยี่ห้อ จะมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดห้องอยู่เสมอ เพราะเครื่องฟอกอากาศฟิลลิปจะทำงานที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับห้องก่อน
เครื่องฟอกอากาศฟิลลิปที่เหมาะสม ท็อปวิวอยากให้ดูประมาณดูดอากาศ ซึ่งมีดังนี้
- ห้องขนาด 40 ตารางเมตร = 5.5 ลบ.ม/นาที
- ขนาดห้อง 30 ตารางเมตร = 4.0 ลบ.ม/นาที
- ขนาดห้อง 23 ตารางเมตร = 3.0 ลบ.ม/นาที
จุดประสงค์ในการใช้งาน
แน่นอนว่าจุดประสงค์แรกของเครื่องฟอกอากาศฟิลลิป มีจุดประสงค์ที่จะฟอกอากาศอยู่แล้ว แต่รู้ไหมครับว่า เครื่องฟอกอกาศฟิลลิปบางรุ่น สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย
อีกทั้งยังสามารถสร้างบรรยากาศให้ร่มเย็น เสริมกลิ่นหอมละมุนช่วยให้หลับนอนได้ง่าย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ท็อปวิวอยากให้ทุก ๆ ท่านพิจารณาก่อนการเลือกซื้อนั่นเอง
ราคา
ราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน เชื่อมโยงจากหัวข้อที่แล้ว ที่ท็อปวิวชวนให้ทุกท่านเช็คจุดประสงค์การเลือกซื้อ
เพราะหัวข้อนั้นจะช่วยให้ท่านตีกรอบราคาได้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อได้ถูกใจมากขึ้น เพราะหากเราซื้อเครื่องที่แพงเกินความจำเป็น จะทำให้คุณจ่ายแพงแบบไม่คุ้มค่านั่นเอง
ข้อดีของเครื่องฟอกอากาศ Philips ที่ควรมีไว้ติดบ้าน
1.แบรนด์ชื่อดัง น่าเชื่อถือ
เครื่องฟอกอากาศฟิลลิป เป็นแบรนด์ชื่อดังที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก และได้รับมาตรฐานระดับโลกมากมายสำหรับแบรนด์นี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยี่ห้อไว้ใจได้
อีกทั้งยังมีบริการที่ดี แก้ปัญหาลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด คลายความกังวลสำหรับ ถ้าหากเครื่องฟอกอากาศฟิลลิปมีปัญหา
2. เทคโนโลยีทันสมัย
เทคโนโลยีของเครื่องฟอกอากาศฟิลลิป เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาอย่างดี เช่น เทคโนโลยี AeraSense ตรวจจับปริมาณฝุ่นได้อย่างแม่นยำ
หรือระบบระบบ VitaShield ที่สามรถกรองฝุ่นได้ 99.97% สามารถได้ดักจับฝุ่นได้ขนาดเล็กมาก ๆ รวมไปถึงดักสารจับภูมิแพ้ในอากาศได้
3. เครื่องฟอกอากาศ Philips มีดีไซน์มินิมอล
เครื่องฟอกอากาศฟิลลิปถูกออกมาให้เรียบง่าย ทันสมัย สีขาวมินิมอลตอบโจทย์การใช้ไลฟ์สไตล์การใช้งานของคนให้ยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังสามรถใช้ประดับห้องเรียนให้ดูดีขึ้นอีกด้วย
สรุป
เป็นยังไงบ้าง สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Philips ยี่ห้อดังคุณภาพดี การันตีจากผู้ใช้งานจริง อีกทั้งยังมีบริการดีเยี่ยม จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่หลาย ๆ คนไว้ใจ
อย่างไรก็ตามเครื่องฟอกอากาศนั้นไม่ได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพเสมอไป หากมีอาการผิดสังเกตไปจากเดิม ท็อปวิวแนะนำให้เอาไปปรึกษาร้านและซ่อมให้เร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ให้หมั่นดูแลและทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อยืดระยะการใช้งานที่ยาวนาน
บทความนี้จัดทำอย่างอิสระ เมื่อคุณซื้อสินค้าผ่านลิงค์ของท็อปวิว เราอาจจะได้คอมมิชชั่น